วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

Japan 1st Time Pt.1 (Osaka)



สวีดัส...สวัสดี

ห่างหายไปจากการอัพบล็อก นาน...ถึงนานมากกกกก...

ทั้งๆที่มีอะไรเยอะแยะ ที่อยากจะเอามาบ่นกับบล็อก...

แต่ความที่ไม่มีเวลา...และขี้เกียจ(มาก) เลยทำให้ไม่ได้อัพสักที... Orz



วันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก....แค่อยากจะมา เวิ่นๆว่า....

ปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา...

เราไปญี่ปุ่น! มาล่ะ!  (กรี๊ดดดดดดด สักที! ในที่สุด ความฝันเมื่อครั้งเยาว์วัยของดิชั้นก็เป็นจริง!!!)


เป็นทริปที่ไปกันเองกับน้องสาว แค่สองคน! (มั่นป่ะให้ทาย...ไปครั้งแรก ไปกันเอง.. ใครอาจจะเฉยๆนะ แต่เรารู้สึกว่า เราสองคนนี่ กล้ามาก 555555)
ไปกันประมาณ 11 วัน...  (ผ่านโปรปุ๊ปก็ลายาว เลยจ้าา 555555)


โดยใช้บริการสายการบินหางแดงX โดยการบินจาก KL(IA2) ไปลงที่ โอซาก้า (KIX airport)
และบินกลับจาก โตเกียว ฮาเนดะ (HND) สู่ KL(IA2) นั่นหมายความว่า ทริปนี้ยาวๆจากคันไซ(โอซาก้า)ไปคันโต(โตเกียว) เลยจ้าา





เดิมที ทริปญี่ปุ่น มันเกือบจะมีไปแล้วเมื่อตอนต้นปี... แต่เพราะว่า ได้งานพอดี คุณผู้ปกครองทั้งสองเลยเห็นว่า ควรเอางานเป็นสำคัญก่อน.... เลิกล้มเลิกแผนนั้นไป..

ซึ่งตอนนั้น จองตั๋วไว้กับ มาเลเซียแอร์ไลน์... 


ประกอบกับที่คุณน้องเรียนจบพอดี... ทางสปอนเซอร์เลยสนับสนุนทริปนี้เต็มที...ฮี่ๆ
เลยได้จัดเต็มกันสักที!


สำหรับการเตรียมตัวของทริปนี้ บอกเลยว่า เตรียมตัวกัน ค่อนข้างจริงจังมาก (แหง ล่ะ เมืองใหม่ ไม่เคยไป แถมไม่รู้ภาษา(?) อีก)

หลักจากที่ได้จองตั๋วล่วงหน้ากับพี่หางแดง ก่อนเดินทางราวๆ สามเดือนแล้วนั้น

เราก็ทำ รีเสิร์ช ที่ 'กิน' ที่'เที่ยว' ที่'พัก' กับเต็มที


ทำเป็น pdf เลยทีเดียว..


(ภาพส่วนหนึ่งของ pdf....555555 ข้อมูลตารางเที่ยว แผนการเดินทางโดยรถไฟ แผนที่ และรูปสตรีทวิวของ รร. )



แอพแผนที่รถไฟใต้ดิน ของสามเมืองใหญ่..บอกเลยว่าช่วยได้เยอะมากๆ



แอพภาษาญี่ปุ่น เนื่องจากไม่รู้ภาษา ก็ได้แอพพวกนี้ช่วยไว้ในยามฉุกเฉิน...




เข้าเรื่อง..
หลังจากที่ถึงสนามบิน โอซาก้าแล้ว.. เราก็นั่งรถไฟเข้าเมืองค่ะ จากแผนเดิมของเรา เราจะอยู่โอซาก้ากัน 3 คืน 



ภายในตู้รถไฟสาย NANKAI-LINE (non-reserve)ไปลง ที่สถานี NAMBA

เงียบมากเพราะเป็นต้นสาย...


บรรยากาศนอกรถไฟ
บอกเลยว่าตื่นเต้นมาก..บ้านนอกเข้ากรุงสุดๆ..เมืองเค้าดีอ่ะ เป็นระเบียบมากๆ ทั้งๆที่มองจาก นอกรถไฟนะ 555555



ถึงสถานี นัมบะ ก็เดินหา information center ตรงนี้เราก็ทำการซื้อ ตํ๋ว Osaka 1 day pass


อิบัตร วันเดย์พาสนี่เป็นอะไรที่คุ้มมาก...เพราะใช้กับรถไฟใต้ดินได้เยอะ (ยกเว้นสายJR) คือ..มันคุ้มเพราะตั๋วรถไฟใต้ดินเป็นเทียวๆที่โอซาก้ามัน...ค่อนข้างแพงอ่ะ  แล้วอิบัตรนี่ แม้จะแพงคือประมาณ 2300 เยน (ถ้านั่งรถไฟอย่างเดียวคงไม่คุ้ม) แต่มันได้เข้าฟรีหรือเป็นส่วนลดสถานที่เที่ยว ที่กินด้วย  ขนาดมาถึงสายๆแล้ว.. ไม่ได้ตะล่อนกันทั่วโอซาก้ายังคุ้มเลย...
(เพราะมัวแต่หลง..สายรถไฟใต้ดิน..นั่งขึ้นลงกันคุ้มเลย..555555555)





หลังออกจาก สถานี SHINSAIBASHI ระหว่างเดินหา รร. ค่ะ
อากาศตอนนั้น ค่อนข้างดีอ่ะ เย็นๆสบายๆ เมืองโอซาก้านี่ สะอาดมากอ่ะ คนน่ารักดี อิอิ



ปรากฏว่า เมื่อถึง รร. ยังเช็คอินไม่ได้... เลยฝากกระเป๋าไว้ก่อน และ เอาซิมที่ส่งมาทาง รร. จัดแจงใส่มือถือ (ซื้อซิมผ่านเน็ตทาง b-mobile แล้วให้ที่รร.  ~3791 เยน..) แล้วออกไปเที่ยวค่ะ..

ตัวเน่ามากเหอะตอนนั้น....คือหลังจากเลิกงานก็ไปหนามบินเลย...
ไม่ได้อาบน้ำ...555555 

จริงๆตอนนั้นก็ยังไม่มีแผนว่าจะไปไหนนะ...แค่รู้ว่า ต้องหาอะไรกินแล้วล่ะ..หลังจากมื้อเช้าบ่นเครื่องก็ยังไม่มีอะไรกระแทกท้องเลย.... 

 รูปนี้คือ ย่านการค้าแถวๆ รร.   เดินมาสักพัก(ใช้googlemap ช่วย)แล้วถึงสถานี เลยทำให้รู้ว่า.... ม่างงง เดินอ้อมโลกตอนหา รร. ทำไม ทั้งๆที่มันอยู่ใกล้มาก...แต่ตอนนั้น ดันออก ทางออกไกล Orz 


และก็นั่งรถไฟไปลงที่ สถานีนัมบะ... คิดว่าจะเอาไงก็เริ่มที่นี้ล่ะ ยังไงก็มีหลายสาย..
แต่ก็ออกมาเดินๆ รอบๆนัมบะซะงั้น..



และด้วยความที่เป็นติ่ง48  ไหนๆก็ไหนๆล่ะ..เดินหา คาเฟ่ และเธียเตอร์ NMB48 วงน้องสาขาโอซาก้าหน่อยล่ะกัน... 

  

อะฮิ.... ก็จัดไปเบาๆ... แต่ไม่ได้เข้านะ... ถ่ายเอาข้างหน้าพอ...เอาเป็นว่า เราได้มาเยือนแล้ว.. 55555



เดินๆ เหนื่อยๆก็เพิ่มพลังด้วย.... kebab ค่ะ 555555555555 (กะบับที่โอซาก้า!...55555)


(รอดแล้ว....ย่านนี้ เมืองนี้หาอาหาร ฮาลาล ยากจริงจังอ่ะ...อย่างน้อยก็มีไรกินล่ะ...ส่วน kebabจะบอกว่ามันเยอะมาก...)


เดินๆกินๆ อยู่ได้สักพักเลยตัดสินใจว่า จะไปปราสาทโอซาก้า...




 เด็ก นร. มาทัศนศึกษากันเยอะมากก...น่าร๊ากกก >< ...
 ตรงนี้ เราก็เข้าไปภายในปราสาท โดยการโชว์บัตร oneday pass ได้เลย..ไม่เสียค่าเข้า..

เนื่องจากไม่มีไกด์ เพราะไปกันเอง..เลยดูของข้างในกันแบบ...ผ่านๆ รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้บ้าง..5555

เมืองโอซาก้าจากยอดปราสาท


ไอติมชาเขียว..เข้มข้นมาก...300 เยน..



เดินๆ ลัลล้า รอบๆปราสาท ก็ได้เวลากลับเช็คอิน ที่ รร.   คือรู้สึกว่า ควรรีบอาบน้ำได้แล้วอ่ะตอนนั้น เน่ามากๆล่ะ 5555 



ภายใน รร. 
เราเลือกพักที่ รร. Villa Fontaine 

สะอาด ขนาดห้องก็กำลังดี อยู่ในย่านการขาย แต่ ไวไฟไม่ถึง;__; แล้วก็ไม่มี ทีวีช่องหลัก มีแบบจ่ายตังค์อย่างเดียว..



หลังจากพักเอาแรงแล้ว... ตกค่ำ เราก็ไปเดินๆ ใกล้ๆย่านนั้นค่ะ ก็อยากไปเจอป้าย กูลิโกะ..
เสิร์ช ดูแล้วไม่น่าจะไกลจาก รร.มาก... แต่พวกเรา เลือกที่จะนั่งรถไฟไปลงนัมบะ..แล้วไปไหนต่อไม่รู้
เดินๆ พอสมควรเหมือนกัน...แล้วๆก็เจอ... ป้ายไฟโด่งดังของ โอซาก้าาา




พวี๊ดดดดดด ในที่สุด ก็เจอ..>_<  (หมายเหตุ:ตั้งแต่วันที่  17 สิงหาที่ผ่านมา เค้าได้เอาป้ายลุงกูลิโกะ ไปซ่อมแล้ว...) ดีนะเราไปทัน..555


และใกล้ๆกันนั้น ก็จะมี ร้าน 'ปู' ชื่อดังของญี่ปุ่นค่ะ...






ซึ่งเราสามารถกินปูอลาสก้า ที่หากินกันได้แค่ช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ได้ที่ร้านนี้.. คือ ร้านเค้ามีวิธี เพาะหรือเก็บปูใหญ่นั้นไว้กินได้นอกฤดูได้อ่ะ... เลยทำให้ ที่นี้มีปูให้กินตลอด..
ร้าน บรรยากาศดีมาก.. มองลงไปจะเห็นป้ายลุงกูลิโกะ และย่านโดทงบูริ พนักงานน่ารักและบริการดี๊ดี รู้สึกเหมือนเราเป็น โชวกุนอ่ะ 555555 แล้วเมนูมี ภาษาไทยกับอินโดด้วย!!

สำหรับร้านนี้ เราก็สั่งแบบเซฟตัวเองอ่านะ... คือทั้งร้านเค้าขายแต่ ปู เลยสั่งพวกเมนูที่ดู ปรุงน้อยที่สุดล่ะ อย่างซูชิ เทมปุระ และก็ปูย่าง..


กินเสร็จ..อิ่มกันพอประมาณก็กลับ รร. ค่ะ...ด้วยความฟลุ๊ค เราเลยรู้ว่า จริงๆแล้ว ย่านนี้มันอยู่ข้างหลัง รร. ของเราเลย!! ไม่ต้องนั่งรถไฟก็ได้ เดินมาก็ถึง Orz  ด๋อยยยย 55555




จบการเวิ่นเว้อ ทริปญี่ปุ่น ตอนที่ 1 โอซาก้าไว้เพียงเท่านี้..
ติดตามกันตอนหน้า ...เราจะไปที่ เกียวโต ค่ะ!  ส่วนเมื่อไรนั้น..โปรดติดตาม.. (จะมีใครรออ่านไหม? 555 )


สวัสดี...